อักษรย่อโรงเรียน น.พ.
สีประจำโรงเรียน ชมพู - ส้ม
ชมพู หมายถึง ความรัก ความเข้าใจ ความร่วมมือ ความสามัคคี
ส้ม หมายถึง ความร่าเริง ผ่องใส ความรอบรู้ ความกระตือรือร้น
สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน เต่า – เพชร
ปรัชญาของโรงเรียน ความรู้ดี มีคุณธรรม นำสังคม
พุทธพจน์ วิริเยน ทุกขํมจฺเจติ คนจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
คำขวัญโรงเรียน เรียนดี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม ก้าวนำเทคโนโลยี
อัตลักษณ์โรงเรียน ประหยัด อดออม
เอกลักษณ์โรงเรียน อ่อนน้อม ไหว้งาม
โรงเรียนบ้านหนองเต่าเพชรเจริญ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลพังเคน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๒ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ปัจจุบัน จัดการศึกษาเป็น ๒ ระดับ คือระดับปฐมวัยอนุบาลชั้นปีที่ ๒-๓ และระดับประถมศึกษา ๑-๖ มีนักเรียนทั้งหมด ๙๔ คน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน ๑๑ คน นักการภารโรงจำนวน ๑ คน มีพื้นที่ ๑๓ ไร่ ๕๓ ตารางวา อาคารเรียน ๒ หลัง อาคารห้องสมุด ๑ หลัง
สภาพชุมชนโดยรวม
สภาพทางภูมิศาสตร์
ทิศเหนือ พื้นที่ติดต่อบ้านโนนตูม ตำบลพังเคน อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
ทิศใต้ พื้นที่ติดต่อบ้านสง่า ตำบลพังเคน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
ทิศตะวันออก พื้นที่ติดต่อบ้านเพชรเจริญ ตำบลพังเคน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
ทิศตะวันตก พื้นที่ติดต่อบ้านด่านฮัง ตำบลพังเคน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
ลักษณะภูมิประเทศ
เป็นที่ราบค่อนข้างสูงในบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้านดินส่วนใหญ่เป็นดินทรายผสมดินลูกรัง ลักษณะทั่วไปของชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่มีลักษณะเป็นหมู่บ้านชนบท บริเวณใกล้เคียงโดยรอบโรงเรียน ได้แก่ ทุ่งนา ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และรับจ้างทั่วไป สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างดี รายได้เฉลี่ยประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท/คน/ปี ชุมชนมีความสัมพันธ์กับสถานศึกษาเป็นอย่างดี ประชากรส่วนใหญ่มีความกระตือรือร้นในการศึกษา ผู้ปกครองส่งเสริมให้บุตรหลานได้รับการศึกษาทุกคน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีความรักในประเพณีศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปคือ การฟ้อนรำ กลองยาว และการทำบุญตามฮีต ๑๒ มีการทำบุญตามประเพณีทุกเดือน การปกครองมีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแลและผู้นำในการพัฒนาต่างๆ ภายใต้ความเห็นชอบของคณะกรรมการหมู่บ้านและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล ในหมู่บ้านมีศาสนสถานคือ วัดยุทธิการาม เป็นสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทำบุญและประชุมชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมา บ้าน วัด โรงเรียน ให้ความร่วมมือประสานกันด้วยดีตลอดม
อาชีพหลักของชุมชน
ประชาชนในท้องถิ่นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำนา ทำสวน ทำไร่ และรับจ้างทั่วไป แต่ที่ทำกินมีน้อยทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อการบริโภค ประชาชนบางส่วนยังขาดแคลนที่ดินทำกิน ประชาชนโดยภาพรวมมีฐานะค่อนข้างดี และเมื่อสิ้นฤดูกาลทำนา คนในชุมชนก็จะอพยพครอบครัวไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และภาคใต้
การศึกษาของประชากร
ประชากรส่วนใหญ่ จบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และ ๖)
โอกาสและข้อจำกัดของโรงเรียน
โรงเรียนอยู่ใกล้แหล่งเรียนรู้ติดกับวัดศรีบุญเรือง ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าอาวาสและชุมชน รวมถึงสถานประกอบการต่างๆเป็นอย่างดียิ่ง
|